NBA

เจย์ คราวเดอร์: ฟอร์เวิร์ดจอมสกปรกที่หลายทีมอยากฉกตัวมาเพื่อคว้าชัยชนะ

Author Photo
Jae Crowder Phoenix Suns
NBA Entertainment

เมื่อพูดถึงผู้เล่นจอมสกปรก แฟนกีฬาหลายคนคงจะอยากส่ายหน้าและรู้สึกว่ากลุ่มผู้เล่นเหล่านี้ช่างมีพฤติกรรมที่แย่และปราศจากน้ำใจนักกีฬาโดยสิ้นเชิง ทักษะที่เปรียบเสมือนมนต์ดำที่ไม่ควรนำมาใช้ในการดวลกันแบบลูกผู้ชาย คือสิ่งที่ขัดต่อจรรยาบรรณเกมกีฬาไม่ว่าจะวงการไหนก็ตาม

อย่างไรก็ดีพวกเขาเหล่านี้มักเป็นที่ต้องการของทีมใดทีมหนึ่งเสมอ ภายใต้ความเป็นผู้เล่นสกปรกอาจมีคุณค่าซ่อนเร้นบางอย่างที่ทำให้ทีมซึ่งต้องการคว้าชัยชนะ มักอยากได้กลุ่มผู้เล่นที่เรียกกันว่า “Dirty Player” และ เจย์ คราวเดอร์ ซึ่งกำลังร้องขอย้ายหนีออกจากฟีนิกซ์ ซันส์ คือหนึ่งในผู้เล่นเหล่านั้น

ทันทีที่ข่าวออกมาหลายทีมก็ตกเป็นข่าวว่าต้องการดึงผู้เล่นรายนี้มาร่วมงานทันที เหตุใดเหล่าทีมในเอ็นบีเอ จึงต้องการชายที่ขึ้นชื่อเรื่องการเล่นได้สกปรกหมดจดที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน ติดตามได้ที่นี่

Jar Crowder

จอมเกเรผู้ยกระดับให้เกือบทุกทีมที่ลงเล่น

การประสบความสำเร็จอาจจะทำให้ทีมต้องยอมมองข้ามข้อเสียบางเรื่อง เพื่อการได้ซึ่งข้อดีที่มากกว่า เช่นเดียวกับวิธีการเล่นของ คราวเดอร์ ที่จริงๆแล้วเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

ตลอด 10 ปี ในลีก ฟอร์เวิร์ดวัย 32 ปี ถือเป็นจอมพเนจรคนหนึ่ง เขาเคยลงเล่นมาทั้งกับ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ , บอสตัน เซลติกส์, คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส, ยูท่าห์ แจ๊ซ, เมมฟิส กริซลี่ย์, ไมอามี่ ฮีต และ ล่าสุดกับทีม ฟีนิกซ์ ซันส์ มองเผินๆอาจจะเหมือนว่าเขาคงไม่เข้าระบบหรือเล่นไม่ดีจึงต้องเก็บข้าวของย้ายทีมบ่อย แต่จริงๆแล้ว ในการลงเล่นกับทุกทีมเขากลับยกระดับและประสิทธิภาพให้ทีมเหล่านั้นได้เสมอ

สถิติของทีมที่ คราวเดอร์ ลงเล่นเมื่อจบฤดูกาลปกติ
 

ฤดูกาล

ทีม

คาดการณ์เกมชนะ ก่อนเปิดฤดูกาล

จำนวนเกมชนะหลังจบฤดูกาล

2012-2013

ดัลลัส แมฟเวอริกส์

44.5

41

2013-2014

ดัลลัส แมฟเวอริกส์

43.5

49

2014-2015

บอสตัน เซลติกส์

27

40

2015-2016

บอสตัน เซลติกส์

45.5

48

2016-2017

บอสตัน เซลติกส์

52.5

53

2017-2018

คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส

53.5

50

2018-2019

ยูท่าห์ แจ๊ซ

49.5

50

2019-2020

เมมฟิส กริซลี่ย์

27.5

34

2020-2021

ฟีนิกซ์ ซันส์

38.5

51

2021-2022

ฟีนิกซ์ ซันส์

51.5

64

 

ถ้าหากเรามองตามสถิติทีมในแต่ละซีซั่นจะเห็นว่าทีมที่มีคราวเดอร์อยู่ด้วย มักจบผลงานในฤดูกาลปกติด้วยชัยชนะที่มากกว่าการคาดการณ์ มีเพียงแค่ปีรุกกี้ของเขากับ แมฟส์ (ซึ่งสมัยนั้นเขายังเป็นแค่สำรองที่ไม่ค่อยถูกใช้งานมากนัก) และ ปี 2017-2018 กับ คาวาเลียร์ส ที่ผลลัพธ์ออกมาต่ำกว่าความน่าจะเป็น

และถ้าคุณสังเกตดีๆ จะพบว่ารายชื่อแต่ละทีมที่เขาไปเข้าร่วมด้วยในช่วงเวลานั้นๆ จะเป็นทีมที่ไม่ใช่กลุ่มแทงค์ หรือ ผลงานแย่จนไม่ได้เข้าเพลย์ออฟ เพราะตลอด 10 ปี คราวเดอร์ ได้เล่นช่วงโพสต์ซีซั่นถึง 9 ครั้ง

ปีเดียวที่พลาดคือฤดูกาล 2012-2013 ส่วนปีที่เขาเล่นกับ กริซลี่ย์ นั้น ท้ายที่สุดทีมอย่าง ไมอามี่ ฮีต ก็มาเทรดคว้าตัวเขาไปเพื่อลุยเพลย์ออฟโดยเฉพาะ ซึ่งปีนั้นพวกเขาจบด้วยการคว้าตำแหน่งรองแชมป์

นั่นเท่ากับการตีความหมายได้ว่า คราวเดอร์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสกปรก กลับเป็นที่ต้องการของทีมที่เน้นสร้างชัยชนะอยู่เสมอ

 

monty williams jae crowder chris paul devin booker deandre ayton phoenix suns
Foto: Getty Images

เรื่องเกมรับ … สั่งได้ ดั่งใจ

“คุณไม่สามารถบอกได้เลยว่า เจ เล่นตำแหน่งอะไร แต่คุณจะบอกได้ว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะถอดเขาออกจากเกมมานั่งข้างสนาม” มอนตี้ วิลเลี่ยมส์ โค้ชฟีนิกซ์ ซันส์ ที่ร่วมงานกับ คราวเดอร์ 2 ฤดูกาลให้สัมภาษณ์ถึงความสำคัญของผู้เล่นรายนี้ในมุมมองของเขา

เหตุผลนั่นก็เพราะความสารพัดประโยชน์ที่ทำได้เสมอ ไม่ว่าตัวของเฮดโค้ชรายการนี้จะสั่งให้ทำอะไรก็ตาม “ทำนองว่า เฮ้ เจ ป้องกันคนนั้น … โอเค หันไปป้องกันคนนั้นแทน ถ้าอยู่ในสกรีนให้สวิตช์ตัว แต่ถ้าเขาอยู่ในสกรีนกับผู้เล่นคนอื่นให้ดัก และผมก็ตะโกนตามไปบอกเขาว่า นายไม่ควรไปดักแบบนั้น ซึ่ง คราวเดอร์ สวนผมกลับมาว่า คำสั่งล่าสุดไม่ใช่แบบนั้นนี้” วิลเลียมส์ ยกตัวอย่าง ความไว้วางใจจนเขามักจะมีคำสั่งรัวๆ เกี่ยวกับเกมป้องกันให้แก่ คราวเดอร์อยู่เสมอ

ด้วยรูปร่างที่สูง 6 ฟุต 6 นิ้ว (ประมาณ 198 เซนติเมตร) ประกอบกับความแข็งแกร่งของร่างกาย และ การไม่กลัวเข้าปะทะหรือต้องเล่นหนักใส่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ทำให้เราเคยเห็นคราวเดอร์ รับบทบาทอย่างน้อยๆ 3 ตำแหน่ง สำหรับการไล่ป้องกันตัวผู้เล่นที่มีทักษะเกมบุกดีที่สุดของทีมคู่แข่ง แม้กระทั่งการต้องไล่ประกบ ยานนิส อันเททูคุมโป ของ บัคส์ เมื่อรอบชิงแชมป์สายปี 2020 ซึ่งฮีต ชนะ ไปได้ 4-1 เกม

จุดเด่นเกมรับของคราวเดอร์คือการสลับตำแหน่งได้ เคลื่อนตัวว่องไวแต่ก็แข็งแกร่งด้วย มีสัญชาตญาณที่ดีและปฏิกริยาตอบสนองที่รวดเร็ว สำหรับทีมบาสเกตบอลการมีผู้เล่นลักษณะนี้ในทีมช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับกลยุทธ์อย่างมาก และความสารพัดประโยชน์ทำให้เขามักเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมทีม

devin booker jae crowder

“เขาทำงานสกปรกทั้งหมด และ ทำสิ่งอื่นมี่เพื่อนร่วมทีมไม่ค่อยพยายามจะทำ ทุกคนเคารพเขามากๆ”

ไอเซห์ โธมัส การ์ดร่างจิ๋วกล่าวถึงการเล่นร่วมกับ คราวเดอร์ ที่เซลติกส์ “เขาต้องการชนะและไม่เกี่ยงเลยว่าต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง เขาคือผู้เล่นที่ไม่มีความเห็นแก่ตัวเลย”

แม้กระทั่งช่วงหมดสัญญากับฮีต ความดีความชอบของคราวเดอร์ ยังทำให้ผู้เล่นจอมเก๋าของลีกอย่าง คริส พอล ต้องเอ่ยปากชวนมาร่วมทีม ซันส์ ด้วยตัวเอง

“มันคือความแตกต่างระหว่างคำว่า เราต้องการคุณ กับ เราจำเป็นต้องมีคุณ … ตอนนั้น พอลบอกว่าจำเป็นต้องมีผม ผมให้เวลาฮีต 1 วัน แล้วหลังจากนั้นผมก็เลือกเซ็นกับซันส์เลย” คราวเดอร์ บอกถึงอิทธิพลที่มาจากคำเชื้อเชิญของยอดการ์ดในลีกเอ็นบีเอ

แต่ข้อดีของคราวเดอร์ ไม่ใช่แค่นั้น เขายกระดับตัวเองจนกลายเป็น 1 ในผู้เล่นตัวประกอบระดับแนวหน้าของลีกเลยทีเดียว

Crowder

ดราฟท์รอบสอง ที่กลายเป็น ทรี แอนด์ ดี ชั้นแนวหน้าของลีก

จุดเริ่มต้นของการเป็นมือปืน 3 คะแนนของเขาเกิดขึ้นที่ เซลติกส์ แม้ว่าในฤดูกาลแรกกับทีมเขาจะล้มเหลวด้วยการชู้ตระยะดังกล่าวลงแค่ 28.2% แต่เพราะการเป็นคนที่มุ่งมั่นและรู้ดีว่าทีมต้องอะไร ทำให้เขาหมั่นซ้อมจนกระทั่งมีสถิติก้าวกระโดดมาเป็น 39.8% ในอีก 2 ซีซั่นต่อมา

ฤดูกาล 2020-2021 ช่วงรอยต่อระหว่างการเล่นกับ ฮีต และ ซันส์ เขาเคยมีช่วงที่ชู้ต 3 คะแนนแม่นยำ 38% โดยมีค่าเฉลี่ย 8 ลูก เมื่อคิดแบบจำนวนต่อการลงเล่น 36 นาที หนึ่งในนั้นคือช่วงเวลาที่ดวลกับ บัคส์ ในรอบชิงแชมป์สาย เขายิงลง 22 จาก 51 ครั้ง (43%) เป็นส่วนที่ช่วยให้ฮีต ผ่าน บัคส์ เข้าสู่รอบชิงฯ

แม้ว่าคราวเดอร์ จะไม่ใช่จอมแม่นระดับแนวหน้า แต่การติดอาวุธเพิ่มเติมทำให้เขาไม่ได้มองว่าเป็นแค่ตัวป้องกันชั้นดี แต่ยังมีออปชั่นเกมบุกเพิ่มเข้ามาด้วยโดยเฉพาะการพยายามวิ่งตัดเข้ามารับบอลบริเวณพื้นที่เบสไลน์ (ใต้แป้นของฝ่ายป้องกัน) รวมถึงการสกรีนให้เพื่อนร่วมทีมได้ประโยชน์ในเกมบุก เซ้นส์และความเข้าใจภาพกว้างของเกมทั้งหมดเกิดจากการศึกษาแผนการเล่น และอีกส่วนมาจากทักษะควอเตอร์แบ็คที่เขาลงเล่นอเมริกันฟุตบอลสมัยมัธยมปลาย

“ผมรู้วิธีที่จะเล่นยังไงให้ดี ผมศึกษาเพราะบาสคือชีวิตของผม ขอแค่คุณให้โครงสร้างเล็กๆน้อยๆ ถึงสิ่งที่ต้องการ ผมสามารถฉลาดพอที่จะเล่นตามวัตถุประสงค์เหล่านั้นได้” คราวเดอร์ กล่าวถึงทักษะความเข้าใจเกมบาสเกตบอลของเขา

นอกจากเกมบุกที่เข้ามาเติมเต็มประสิทธิภาพของเขาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่หลายทีมต้องการคือการไม่พยายามทำอะไรที่เกินตัว ส่งผลให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีอัตราค่าเฉลี่ยเทิร์นโอเวอร์ ต่อการครองบอลต่ำมากที่สุดของลีก

มีการแซวกันขำๆ แต่เป็นสถิติที่เกิดขึ้นจริงเพื่อให้เห็นคุณค่าและความคงเส้นคงวาของ คราวเดอร์ ด้วยว่า เขาเป็นผู้เล่นที่สามารถทำคะแนนในรอบเพลย์ออฟได้สูงกว่า สตาร์ดังอย่าง แอนโธนี่ เดวิส, จรู ฮอลิเดย์, เทรซี่ แมคเกรดี้ และ เดริก โรส ด้วยซ้ำ

พัฒนาการของคราวเดอร์ มาไกลมากหากเรามองย้อนกลับไปว่าเขาคือ ดราฟท์อันดับ 34 ในปี 2012

Jae Crowder y Jimmy Butler

สิงห์สนามจริง และ ขิงสนามซ้อม

พูดถึงมุมของความน่ารัก คราวเดอร์ ก็มีกับเขาเหมือนกัน เมื่อ ไอเซห์ โธมัส เคยออกมาเล่าว่า บรรยากาศการซ้อมในทีมเซลติกส์ จะมีการแทรชทอล์คใส่กันเองแบบสุดๆ แต่ทั้งหมดเพื่อการสร้างความท้าทาย ทำให้ทุกคนกระตือรือร้น และ จบด้วยการเดินกอดคอกันออกจากสนามซ้อมเยี่ยงพี่น้องกันอยู่เสมอ

“ผู้คนชอบคิดว่าเราไม่ถูกกัน มันแย่จริงๆ แต่ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเฮฮา คราวเดอร์ ไม่ได้ใส่ใจกัลประโยคหรือคำพูดที่ใครว่าอะไรเขาทั้งนั้น” โธมัส เล่าถึงบรรยากาศการเขม่นกันเองระหว่างซ้อมที่ เซลติกส์ โดยการซ้อมมีเรื่องที่เป็นสิ่งเล่าขานต่อกันมาว่า คราวเดอร์, โธมัส, มาร์คัส สมาร์ท และ อีแวน เทอร์เนอร์ เคยมีปรากฏการณ์เดือดๆเกิดขึ้น จนทำให้โค้ชหนักใจในการแบ่งทีม เพราะ คราวเดอร์ มักชอบแซวด้วยการตะโกนใส่ โธมัส ว่า “ไอ้ตัวทำคะแนนเป็นอย่างเดียว” ส่วน โธมัส ก็โต้กลับไปว่า “โอเค ไอ้ตัวป้องกัน” 

นอกจากนั้นที่ทีมฮีต ยังมีฉากการดวลกัน 1 ต่อ 1 ระหว่าง จิมมี่ บัตเลอร์ กับ คราวเดอร์ โดย บัตเลอร์ ไปแหย่ว่า “ฉันไล่เตะก้นนายมาตั้งแต่สมัยมัธยม” เพื่อนร่วมทีมซึ่งยืนดูอยู่กลับชื่นชมที่คราวเดอร์ เอาสิ่งเหล่านั้นมากระตุ้นในการฝึกซ้อมของตัวเอง แม้ว่าท้ายที่สุดเขาจะแพ้ บัตเลอร์ ในเกมสุดท้ายก็ตาม

มองกันตามวัฒนธรรมและความตรงไปตรงมา การกระทบกระทั่งกันระหว่างซ้อมเป็นเรื่องปกติของกีฬาประเภททีม แต่สิ่งที่คราวเดอร์ทำคือการไม่เก็บมาเป็นประเด็น แต่ตัดสินด้วยการแข่งขันบาสเกตบอลที่ก็ถือว่านับเป็นการฝึกซ้อมอย่างหนึ่งได้ และอีกด้านมันคือการแสดงให้เห็นว่ากับเพื่อนร่วมทีม เขาไม่ได้ก้าวร้าวหรือเลวร้าวเหมือนหลายๆเหตุการณ์ที่เคยเป็นข่าวคราวว่าเขาคือจอมสกปรกแห่งวงการเลย

ผู้แต่ง
Nawapon Kiatpisan Photo

NBA Lover