ยูยิตสู : กีฬาที่ไม่อยู่ในโอลิมปิกแต่พาไทยคว้าเหรียญทองแรกในซีเกมส์

Author Photo
กองประชาสัมพันธ์ กกท.

ทัพนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญทองแรกในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ประจำปี 2023 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาได้สำเร็จแล้วจากการแข่งขันยูยิตสู ประเภทโชว์หญิง โดย “สุภวดี แก้วสระแสน” และ  “กุลสตรี คำสร้อย” สองนักกีฬาของไทยสามารถเอาชนะ “ติม โซวาลิน่า” และ “เฮง เซียบเฮง” นักกีฬาจากประเทศเจ้าภาพได้ ขณะที่ในประเภทดูโอ้ชายนั้น “นาวิน ก่อแก้ว” และ “ภานุวัฒน์ ดียะตาม” พลาดท่าให้แก่เจ้าภาพได้เพียงเหรียญเงินไปอย่างน่าเสียดาย

ซึ่งจากผลงานดังกล่าวก็สร้างความดีใจและความภาคภูมิใจให้กับแฟนกีฬาชาวไทยเป็นอย่างมาก แต่ท่ามกลางกระแสความชื่นชมยินดีนั้นก็มีคำถามตามมาว่า ยูยิตสู นั้นคือกีฬาอะไรกันและเป็นกีฬาสากลหรือไม่ บทความนี้จะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จักกับกีฬาชนิดนี้กันครับ

ยูยิตสูกีฬาสากลที่ไม่มีในโอลิมปิกเกมส์

ยูยิตสูนั้นเป็นกีฬาด้านศิลปะป้องกันตัวโดยเป็นกีฬาสากลที่ดูแลโดยสหพันธ์ยูยิตสูนานาชาติ (Ju Jitsu International Federation) โดยจะมีการจัดการแข่งขันกันทั้งสิ้น 3 ประเภทหลักได้แก่ การต่อสู้ไฟท์ติ้ง, เนวาซ่าเป็นการแข่งขันแบบท่ากดนอนเน้นการจับล็อก และดูโอ้คือการแสดงศิลปะกระบวนท่าการต่อสู้

โดยยูยิตสูนั้นเป็นกีฬาที่ไม่ได้รับการบรรจุอยู่ในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่อย่างโอลิมปิกเกมส์ แต่ยูยิตสูก็มีการจัดการแข่งขันในมหกรรมกีฬารองอย่างเวิลด์เกมส์ (World Games) ซึ่งเป็นมหกรรมกีฬาที่บรรจุกีฬาสากลที่ไม่ได้มีการจัดการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์เอาไว้และทำการแข่งขันกันทุก 4 ปีเช่นเดียวกันกับโอลิมปิกเกมส์

สำหรับสาเหตุที่ยูยิตสูไม่ได้มีบรรจุอยู่ในกีฬาโอลิมเกมส์นั่นก็เพราะว่าโดยปกติแล้วการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์จะจำกัดชนิดกีฬา และจำนวนเหรียญรางวัลที่ชิงชัยกัน ซึ่งกีฬาประเภทต่อสู้หรือศิลปะป้องกันตัวนั้นมีการจัดการแข่งขันกันอยู่แล้วหลายชนิดทั้งมวยสากลสมัครเล่น, เทควันโด, มวยปล้ำ และยูโด

ซึ่งต้องยอมรับว่ากีฬาต่อสู้เหล่านี้ได้รับความนิยมและมีจำนวนชาติสมาชิกรับรองค่อนข้างมากการที่ยูยิตสูจะเข้าไปแทนที่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งกีฬาเหล่านั้นก็มีการเผยแพร่และจัดการแข่งขันในระดับนานาชาติมาเป็นระยะเวลายาวนานและกระจายไปทุกทวีปทั่วโลกนั่นจึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ยูยิตสูยังไม่มีโอกาสแทรกตัวเข้าไปในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติได้

อย่างไรก็ตามยูยิตสูเองก็ยังถูกบรรจุอยู่ในการแข่งขันเวิลด์เกมส์โดยมีการแข่งขันเป็นครั้งแรกในเวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 5 ปี 1997 ณ เมืองลาห์ติ ประเทศฟินแลนด์โดยมีการแข่งขันกันในประเภทการต่อสู้ไฟท์ติ้งและดูโอ จากนั้นในการแข่งขันเวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 9 ปี 2013 ณ เมืองกาลิ ประเทศโคลอมเบีย ก็มีการเพิ่มการแข่งขันในประเภทเนวาซ่าเข้าไป

ด้านการแข่งขันในระดับทวีปเอเชียนั้นนอกจากจะมีการแข่งขันยูยิตสูชิงแชมป์เอเชียแล้ว ยูยิตสูก็ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่มีการแข่งขันในเอเชียนเกมส์ (Asian Games) โดยเริ่มทำการแข่งขันในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ปี 2018 ณ กรุงจาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีการจัดการแข่งขันในประเภทเนวาซ่าเท่านั้น โดยชิงชัยกันทั้งสิ้น 8 เหรียญทอง และในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ปลายปี 2023 นี้ยูยิตสูยังคงได้รับการบรรจุอยู่ในเอเชียนเกมส์เช่นเดิม

นอกจากยูยิตสูจะมีบรรจุในกีฬาเอเชียนเกมส์แล้วก็ยังมีบรรจุอยู่ในการแข่งขันเอเชียนอินดอร์แอนท์มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ (Asian Indoor & Martial Arts Games) อีกด้วย โดยเริ่มจากถูกบรรจุในการแข่งขันเอเชียนมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ (Asian Martial Arts Games) ครั้งที่ 1 ปี 2009 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพก่อน จากนั้นเมื่อมีการผนวกมหกรรมกีฬาเอเชียนอินดอร์เกมส์ กับ เอเชียนมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ เข้าด้วยกันเป็นเอเชียนอินดอร์แอนท์มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ (Asian Indoor & Martial Arts Games) ยูยิตสูก็ถูกบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของมหกรรมนี้ในการแข่งขันครั้งที่ 5 ปี 2017 ณ เมืองอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน โดยในครั้งนั้นมีการชิงชัยกันในประเภทเนวาซ่า, ดูโอ้ และที่พิศษคือมีการเพิ่มประเภทคอนแทค ซึ่งจะคล้ายกับการต่อสู้แบบ MMA เพียงแต่ไม่มีกรงมาจำกัดขอบเขตเท่านั้น

ซึ่งจากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่ายูยิตสูนั้นแม้จะยังไม่มีการจัดการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ แต่ก็มีการจัดการแข่งขันในมหกรรมกีฬาทั้งในระดับโลกและระดับทวีปเอเชีย การจะกล่าวว่ายูยิตสูเป็นกีฬาสากลก็คงจะไม่ผิดนัก

ผลงานนักยูยิตสูไทยในการแข่งขันมหกรรมกีฬานานาชาติ

กองประชาสัมพันธ์ กกท.

สำหรับประเทศไทยก็เริ่มเข้าร่วมการแข่งขันยูยิตสูในระดับนานาชาติมาได้ไม่นานนักแต่ก็สามารถสร้างผลงานในการแข่งขันได้อย่างสม่ำเสมออย่างในการแข่งขันเอเชียนอินดอร์แอนท์มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 5 ปี 2017 ณ เมืองอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน ทัพยูยิตสูทีมชาติไทยก็สามารถคว้ามาได้ถึง 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง โดยเหรียญทองได้จากการแข่งขันในประเภทดูโอ้หญิงคลาสสิคและโชว์หญิง ส่วนประเภทเนวาซ่านั้นทีมชาติไทยได้เหรียญทองจากประเภทหญิง น้ำหนักไม่เกิน 49 กก. โดย “สุวนันท์ บุญสอน” และประเภทหญิง น้ำหนักไม่เกิน 62 กก. โดย “อรภา เสนาธรรม”  

จากนั้นปีถัดมาในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ปี 2018 ณ กรุงจาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซีย ทีมยูยิตสูไทยก็ได้มา 1 เหรียญทองแดงจาก “บรรพต เลิศไธสง” ในประเภทเนวาซ่าชาย น้ำหนักไม่เกิน 69 กก. ส่วนในการแข่งขันกีฬาเวิลด์เกมส์นั้น นักกีฬายูยิตสูทีมชาติไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลได้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันเวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 11 ปี 2022 ณ เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการแข่งขันในครั้งนั้นทีมชาติไทยคว้ามาได้ 2 เหรียญทองจากการแข่งขันประเภทต่อสู้ไฟท์ติ้ง รุ่น 48 กก.หญิง โดย “กัญจุฑา ภัทรบุญซ่อน” และประเภทโชว์ศิลปะการป้องกันตัวคู่ผสม โดย “วราวุฒิ แสงศรีเรือง” จับคู่กับ “ลลิตา ยืนนาน” และทีมชาติไทยยังได้มาอีก 2 เหรียญเงิน จาก “อรภา เสนาธรรม” ในประเภทต่อสู้หญิง น้ำหนักไม่เกิน 63 กก. และจาก “กัญจุฑา ภัทรบุญซ่อน” ประเภทเนวาซ่าหญิง น้ำหนักไม่เกิน 48 กก. นับว่าเป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมของนักกีฬายูยิตสูไทยในเวทีระดับโลก

สำหรับการแข่งขันในระดับภูมิภาคอย่างซีเกมส์นั้นทีมยูยิตสูไทยคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ปี 2019 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยได้จาก “บรรพต เลิศไธสง” ในประเภทเนวาซ่าชาย น้ำหนักไม่เกิน 69 กก. และ ณัฐดนัย เนตรทิพย์ ประเภทเนวาซ่าชาย น้ำหนักไม่เกิน 94 กก. ส่วนการแข่งขันซีเกมส์ครั้งถัดมาที่ประเทศเวียดนามทีมยูยิตสูทีมชาติไทยก็คว้ามาได้ 1 เหรียญทอง จาก “สุวิจักขณ์ ขุนทอง” ประเภทเนวาซ่าชาย น้ำหนักไม่เกิน 62 กก. 

และทั้งหมดนี้คือผลงานของนักกีฬานักยูยิตสูทีมชาติไทยในการแข่งขันมหกรรมกีฬานานาชาติ ทั้งเวิลด์เกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนอินดอร์แอนท์มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ และซีเกมส์ ครับ 

ยูยิตสูในภูมิภาคอาเซียน

ยูยิตสูนั้นนอกจากจะมีการแข่งขันกันในกีฬาเวิลด์เกมส์ เอเชียนเกมส์และเอเชียนอินดอร์แอนท์มาร์เชียลอาร์ตเกมส์แล้ว กีฬาชนิดนี้ก็ยังมีบรรจุแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ด้วยโดยมีการจัดการแข่งขันกันเป็นครั้งแรกในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ปี 2019 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้นในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งถัดมาที่ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพยูยิตสูก็ยังคงถูกบรรจุให้อยู่ในมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคอาเซียนเช่นเดิม

โดยการแข่งขันยูยิตสูในซีเกมส์ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมานั้นจะมีเฉพาะประเภทเนวาซ่าเท่านั้น โดยการแข่งขันซีเกมส์ปี 2019 มีการชิงชัยกันทั้งสิ้น 11 เหรียญทอง ขณะที่ในปี 2021 มีการชิงชัยกันทั้งสิ้น 6 เหรียญทอง ซึ่งประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทยต่างทำผลงานได้ดีตลอดการแข่งขัน 2 ครั้งที่ผ่านมา 

ขณะที่การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ประจำปี 2023 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาครั้งนี้จะมีการชิงชัยกันในประเภทเนวาซ่า,ดูโอ้ และโชว์ โดยเป็นครั้งแรกที่ยูยิตสูในกีฬาซีเกมส์จะมีการแข่งขันในประเภทดูโอ้และโชว์ ด้านการชิงชัยเหรียญรางวัลนั้นจะแบ่งเป็นประเภทเนวาซ่า 7 เหรียญทอง ประเภทดูโอ้ 3 เหรียญทอง และประเภทโชว์ 3 เหรียญทอง รวมทั้งสิ้น 13 เหรียญทอง ซึ่งเราคงต้องมาช่วยกันลุ้นนักกีฬาไทยของเราครับว่าจะสามารถทำผลงานได้ดีเพียงใด

กองประชาสัมพันธ์ กกท.

บทความโดย : ธิษณา ธนคลัง (เต้นคุง) - The Sportory

ผู้แต่ง
Nuttanon Chankwang  Photo

บรรณาธิการบริหาร The Sporting News Thailand