โอกาสที่นักฟุตบอลระดับภูธรคนหนึ่งจะมีวาสนาก้าวไปติดทีมชาติเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะกำแพงข้างหน้าที่ต้องฝ่าไปให้ได้นั้นคือนักเตะระดับลีกสูงสุดของประเทศ รวมถึงเหล่านักเตะที่ไปค้าแข้งต่างแดน, ลูกครึ่ง หรือแม้กระทั่งตัวโอนสัญชาติ
แต่ใครจะไปเชื่อกันว่าทีมชาติอุรุกวัยกล้าทำสิ่งที่โลกคาดไม่ถึงเมื่อกุนซือ มาร์เซโล บิเอลซา เรียกตัว วอลเตอร์ โรดริเกซ กองหน้าวัย 24 ปีจากสโมสร ยูเวนตุด เด โซเรียโน่ ทีมฟุตบอลกึ่งอาชีพระดับเทศบาลเมืองมาสวมยูนิฟอร์มรับใช้ชาติชุดใหญ่ลงเตะอุ่นเครื่องกับทีมชาติคอสตาริกาในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ แม้กระทั่งเจ้าตัวเองยังช็อคและตกใจหลังจากได้ยินข่าว
ทั้งนี้ผลงานในปี 2024 ของ วอลเตอร์ โรดริเกซ เรียกได้ว่ากำลังร้อนยิ่งกว่าประเทศไทยด้วยการซัดไป 38 ประตูจาก 19 เกม รวมถึงเพิ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยระดับภูมิภาครายการ OFI Club Cup กับต้นสังกัด ยูเวนตุด เด โซเรียโน่ มาหมาด ๆ
เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป มาร์ติน รอสตาน ผู้สื่อข่าวกีฬาท้องถิ่นจากสำนัก Fray Bentos ก็รีบไปสัมภาษณ์เขาแบบเซอร์ไพรส์ซึ่งอาการของ วอลเตอร์ ดูสับสนปนงงอย่างชัดเจน
"ผมได้รับโทรศัพท์จากสมาคมฟุตบอลแจ้งว่าผมติดทีมชาติ ผมไม่เคยคาดหวังเลยและมันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวันนี้จะมาถึง ทีมผมทะเลาะกันทุกวัน ไม่มีสนามแข่ง เราต้องไปฝึกซ้อมบนสนามที่เต็มไปด้วยปลักโคลน ผมอยู่ในช่วงเวลาที่ดีมาก ผมหวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ต่อไปกับเพื่อนร่วมทีมทุกคน"
ส่วนสาเหตุที่ บิเอลซา ต้องเรียกแข้งระดับบอล อบต. มาติดทีมชาติก็เพราะว่านักเตะแกนหลักในลีกดิวิชั่น 1 ติดภารกิจเล่น โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส และโคปา ซูดาเมริกานา ทำให้สโมสรส่วนใหญ่ไม่ยอมปล่อยตัวผู้เล่นมาให้ เขาจึงแก้ปัญหาด้วยการไปเรียกนักเตะจากทีมดชระดับกลาง ๆ ในลีกดิวิชั่น 1 รวมกับ วอลเตอร์ จากบอลอบต. เป็น 21 คน
แต่กระนั้นอุรุกวัยจะได้ ดาร์วิน นูนเญซ และ เฟเดริโก บัลเบร์เด้ สองแข้งดังจากยุโรปมารวมกับเพื่อนร่วมทีมที่เหลือจนครบ 23 คน เปิดสนาม นาซิอองนาล ลงเตะอุ่นเครื่องกับ คอสตาริกา วันที่ 31 พฤษภาคมนี้
Walter Dominguez jugó hoy por Copa OFI y confirmó la convocatoria para @Uruguay
— Alex Martin Rostan (@MartinRostan9) May 4, 2024
Su equipo cayó derrotado 2 a 1. pic.twitter.com/CCNLvYqWy4
ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand