ดอร์ทมุนด์พลาดแชมป์บุนเดสลีกาเพราะอะไร? ย้อนดูจุดอ่อนที่ทำให้ดอร์ทมุนด์พลาดแชมป์

Author Photo
Getty Images

การคว้าแชมป์ 10 ปีติดต่อกันในบุนเดสลีกาของบาเยิร์น มิวนิค ถือเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของเสือใต้ ไม่มีทีมไหนในประวัติศาสตร์ 5 ลีกใหญ่ของยุโรปเคยทำได้มาก่อนแม้แต่ทีมเดียว 

แต่ขณะเดียวกันนั่นก็อาจทำให้แฟนฟุตบอลหลายคนเบื่อและหวังว่าจะมีสักทีมลุกขึ้นมาหยุดสถิตินี้สักที 

แน่นอนว่าผู้ท้าชิงก็จะสลับหน้ากันมาเพื่อท้าชิงบัลลังก์ของเสือใต้ โดยที่ผู้ท้าชิงอันดับ 1 ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาส่วนมากแล้วจะเป็นโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นั่นเอง 

ในฤดูกาล 2022/23 พวกเขาก็เข้าใกล้มากๆแล้วที่จะหยุดการครองแชมป์ของพี่เสือไว้ที่ 10 สมัยติดต่อกัน แต่พวกเขาทำพลาด แต่นั่นมันก็มีเหตุและผลอยู่เช่นเดียวกันว่าทำไมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ถึงพลาดแชมป์บุนเดสลีกา 

ดอร์ทมุนด์พลาดแชมป์บุนเดสลีกาเพราะอะไร? 

ทีมอ่อนประสบการณ์

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ชุดนี้เต็มไปด้วยสุดยอดดาวรุ่ง นักเตะเด่นๆของพวกเขาหลายๆคน งัดฟอร์มเก่งได้ในฤดูกาลนี้ ก็ยังอายุไม่ถึง 25 ปีหลายต่อหลายคน 

ไม่ว่าจะจู๊ด เบลลิงแฮม ที่โชว์ฟอร์มเทพมาเกือบทั้งฤดูกาล, คาริม อเดเยมี่ ที่มีฤดูกาลแรกในบุนเดสลีกาที่ดี 

รวมถึง ดอนเยลล์ มาเล็น ที่แม้ว่าในช่วงแรกจะเล่นได้ไม่น่าประทับใจสักเท่าไร แต่หากนับในครึ่งฤดูกาลหลังเขาถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีผลงานดีที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปเลยทีเดียว 

พูดได้เลยว่าหากวันที่พวกเขาสามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ ใครก็หยุดพวกเขาไม่ได้เหมือนกัน อย่างในครึ่งฤดูกาลหลังนับตั้งแต่เริ่มปีใหม่ 2023 พวกเขาก็ชนะได้ 8 นัดติดต่อกันเลยทีเดียวในบุนเดสลีกา  

Getty Images

ชื่อเหล่านี้ถือว่าชัดเจนว่าพวกเขายอดเยี่ยม แต่ด้วยอายุทำให้พวกเขายังขาดความนิ่งเมื่อลงเล่นในสนาม ในบางครั้งนักเตะเหล่านี้ก็ไม่สามารถงัดฟอร์มการเล่นสุดยอดออกมาได้ในวันที่พวกเขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องชนะคู่แข่ง 

ความเป็นเด็กทำให้นักเตะเหล่านี้ แสดงความผิดพลาดได้บ่อยครั้ง เพราะยังอ่อนประสบการณ์ แต่การจะเป็นแชมป์จะมาแสดงความผิดพลาดบนสนามฟุตบอลไม่ได้ แต่ฝั่งดอร์ทมุนด์ก็ยังผิดพลาดแบบเดิมๆ 

อย่างประตูที่เสียในนัดสุดท้ายก็มาจากลูกเตะมุม ซึ่งเป็นปัญหากันมาทั้งฤดูกาลก็แก้ไม่หาย หรือการยืนเกมรับที่หลวมก็ยังพอมีให้เห็น และพวกเขาก็โดนไมนซ์ลงโทษในเกมนัดสุดท้าย จากเกมรับที่ไม่รัดกุมมากพอ 

ต่างกับเสือใต้ที่วันไหนที่พวกเขาจำเป็นต้องชนะส่วนมากพวกเขาทำได้ ขณะเดียวกันเมื่อดอร์ทมุนด์เจอกับสถานการณ์ยากลำบากพวกเขามีโอกาสพลาดได้เสมอ ไม่ว่ามันจะเข้าทางพวกเขายังไงก็ตาม 

อย่างในฤดูกาลนี้ ดอร์ทมุนด์ขึ้นเป็นจ่าฝูงทั้งหมด 3 ครั้งเมื่อจบช่วงสุดสัปดาห์ แต่ทั้ง 3 ครั้งในนัดต่อมาพวกเขาพลาดทำแต้มหล่นทุกครั้งทั้งที่สถานการณ์มันอยู่ในมือของตัวเองแล้วแท้ๆ  

นิ่งไม่พอ

Getty Images

หากพูดถึงการลุ้นแชมป์แล้ว ทีมชุดนี้ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่นำโดย เอดิน แทร์ซิช ถือว่ายังขาดประสบการณ์ในการลุ้นแชมป์อยู่พอสมควร 

ถ้าหากจะบอกว่าทีมชุดนี้นักเตะหลายๆคนก็มีประสบการณ์เพราะก็เป็นรองแชมป์มาหลายต่อหลายครั้งแล้วมันก็คงใช่ แต่เมื่อแกนหลักที่เป็นส่วนสำคัญของทีมเป็นดาวรุ่ง แถมผู้จัดการทีมยังถือว่าใหม่กับสถานการณ์นี้ มันก็ไม่แปลกว่าอาจจะผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ในเรื่องของรายละเอียดจนส่งผลถึงการที่พวกเขาพลาดแชมป์บุนเดสลีกาด้วย 

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2018-19 นั่นคือครั้งล่าสุดที่ดอร์ทมุนด์ลุ้นกับบาเยิร์นจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล แต่สถานการณ์มันก็ยังอยู่ในมือบาเยิร์น มิวนิค หากเสือใต้ชนะในบ้านมันก็จบ ซึ่งบาเยิร์นก็ไม่พลาด ดอร์ทมุนด์ก็อดแชมป์บุนเดสลีกาในฤดูกาลนั้น

กลับกันในฤดูกาล 2022-23 มีลุ้นมากกว่าสำหรับดอร์ทมุนด์เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างอยู่ในมือของพวกเขาเอง ขอแค่พวกเขาชนะเท่านั้น พวกเขาก็จะได้เป็นแชมป์ และหยุดการคว้าแชมป์ต่อเนื่องเป็นทศวรรษของเสือใต้ไว้เท่านี้  

แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาเต็มไปด้วยความกดดันมากมายถาโถมแม้จะเล่นในบ้านก็ตามกลับโดนไมนซ์ที่แพ้มา 4 เกมติดต่อกัน ยิงนำไปก่อน 2 ประตู ขณะที่อีกสนามเสือใต้ก็ขึ้นนำ เชื่อได้เลยว่ากดดันกันทั้งหมดสำหรับดอร์ทมุนด์ ภาษากายแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามันเต็มไปด้วยความตึงเครียด ไม่ว่าจะนักเตะหรือโค้ชที่ก็แก้เกมผิดๆถูกๆ ทั้งที่ปกติแล้วแทร์ซิชถือเป็นโค้ชจัดวางแผนได้อย่างยอดเยี่ยมอีกคนหนึ่งเช่นเดียวกัน 

ด้วยประสบการณ์พวกเขาไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่อยู่ตรงหน้าได้ สุดท้ายพวกเขาก็เลยพลาดในการคว้าแชมป์ 

ความกดดันที่มากเกินไป

Getty Images

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีเหตุผลมากมายที่ส่งผลให้พวกเขาพลาดแชมป์ ทีมที่ยังอ่อนประสบการณ์ รวมไปถึงเรื่องของความกดดัน และเรื่องของความกดดันในนัดสุดท้ายมันมีสูงอย่างน่าเหลือเชื่อ 

เราเห็นได้เลยว่าแฟนดอร์ทมุนด์ท้องถิ่นคาดหวังกับนัดสุดท้ายขนาดไหนเมื่อพวกเขาไปถึงสนามซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค ตั้งแต่ช่วง 8 โมงเช้าของประเทศเยอรมนี 

มากกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นแฟนฟุตบอลทีมไหนๆ ก็อยากจะให้เสือเหลืองหยุดการคว้าแชมป์ของบาเยิร์น มิวนิค เราเห็นกันได้ตามช่องทางโซเชียล มีเดีย ผู้คนส่วนมากหากไม่ใช่แฟนเสือใต้ก็จะเอาใจช่วยเสือเหลืองทั้งนั้น  

แต่แน่นอนว่า เมื่อความคาดหวังมันถาโถมมาจากทั่วทุกสารทิศแบบนี้มันก็เกร็งเป็นธรรมดา ดอร์ทมุนด์ไม่เป็นตัวเองเลยในเกมนัดสุดท้าย พวกเขาขาดความเฉียบขาดกันเอง หรือแม้แต่โอกาสทองอย่างจุดโทษก็ยังพลาด 

เกมรับหลวมไปเมื่อพยายามจะสร้างเกมรุกใส่คู่ต่อสู้อย่างไมนซ์จนผิดพลาด และโดนเกมสวนกลับของไมนซ์เล่นงาน การที่พวกเขาเสมอไม่ได้ช่วยอะไรเลย ในเมื่อพวกเขาต้องการชัยชนะ ทุกอย่างมันจบเมื่อสิ้นเสียงนกหวีด ดอร์ทมุนด์ไม่สามารถก้าวข้ามบททดสอบครั้งใหญ่ที่มาในรูปแบบของความหวังจากคนทั้งโลก สุดท้ายพวกเขาพลาดแชมป์

ความพ่ายแพ้คือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เช่นกันกับความเจ็บปวดที่พวกเขาต้องเจอ เชื่อได้เลยว่าหากดอร์ทมุนด์ชุดนี้ที่นำโดย เอดิน แทร์ซิช สามารถต่อยอดไปได้ถึงจุดที่ควรจะเป็น การที่พวกเขาสุดท้ายแล้วจะสามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีกาคงไม่ไกลเกินเอื้อม 

เพียงแต่ตอนนี้ต้องเรียนรู้จากความพ่ายแพ้ครั้งนี้เพื่อนำไปเป็นประสบการณ์ รอโอกาสที่จะกระชากแชมป์จากบาเยิร์น มิวนิคในอนาคต

บทความโดย : ณพันธ์ สุขนพกิจ (กรอบเขตโทษ/Domo97) 

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

ผู้แต่ง
Nuttanon Chankwang  Photo

บรรณาธิการบริหาร The Sporting News Thailand